มาตรวัดอากาศแบบ Flap
มาตรวัดการไหลของอากาศ หรือ air flow meter ทำหน้าที่วัดปริมาณอากาศที่ไหลผ่านท่อไอดีและเปลี่ยนปริมาณอากาศเป็นสัญญาณทางไฟฟ้า เพื่อไปบอก ECU ว่ามีปริมาณอากาศไหลผ่านมากแค่ไหน โดย ECU จะนำสัญญาณนี้ไปประมวณผลหาปริมาณการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงของหัวฉีด
มาตรวัดการไหลของอากาศแบบใช้แผ่นวัด (Vane or Flap air flow sensor/meter (AFM) ) มักพบในรถโตโยต้า เช่น 3T-GTE, 1G-GTE, 3S-GTE, รถ Mazda BP(Astina) เป็นต้น มีหลักการทำงานดังนี้
-
ทำงานโดยอาศัยการเปลี่ยนค่าความต้านทานเป็นสํญญาณแรงดันไฟฟ้าแล้วส่งไปให้ ECU
-
แรงดันจะอยู่ในระดับประมาณ 5 V. เมื่อไม่มีอากาศไหลผ่านแอร์โฟว์ และเมื่อมีอากาศไหลผ่านก็จะทำให้แรงดันไฟฟ้าลดลง ตามปริมาณอากาศที่ไหลผ่าน โดยจะเข้าใกล้ 0V เมื่อมีอากาศไหลผ่านมากๆ
มาตรวัดอากาศแบบ Flap ประกอบด้วย
- แผ่นวัด (Measuring Plate)
- สปริงดันกลับ (Return Spring)
- ตัวแปลงสัญญาณ (Potentiometer)
- ห้องป้องกันการกระเพื่อน (Dammping Chamber)
- แกนเลื่อน (Slider)
- ช่องระบาย (Air By-Pass Passage)
- แผ่นชดเชย (Compensation Plate)
- สกรูปรับส่วนผสมเดินเบา (Idle Mixture Adjusting Screw)
การทำงาน เมื่ออากาศที่ไหลจากกรองอากาศผ่านมายังมาตรวัด อากาศจะดันแผ่นวัดให้เปิด ตัวแปลงสัญญาณหรือ Potentiometer (เปลี่ยนความต้านทานตามปริมาณของอากาศ) ที่ต่อเป็นแกนเดียวกับแผ่นวัดจะทำหน้าที่เปลี่ยนปริมาตรของอากาศที่เข้าบรรจุเป็นสัญญาณไฟฟ้า (VS) แล้วส่งไปให้ ECU
สกรูปรับส่วนผสมรอบเดินเบา (Idle Mixture Adjusting Screw) จะอยู่ในช่องระบาย ทำหน้าที่ปรับส่วนอัตราส่วนผสมของอากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะมีผลต่อปริมาณของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซค์ ในก๊าซไอเสีย บนตัวสกรูจะตอกหมายเลขไว้
ค่ามาตรฐานในการปรับตั้งสกรูส่วนผสมเดินเบา | |
หมายเลขน๊อต | ระยะห่างจาก casting ถึง หัวสกรู |
30 | 13.0 มิล |
26 | 12.6 มิล |
24 | 12.4 มิล |