ฟิวส์รถยนต์
ฟิวส์ (Fuse) มีหน้าที่ป้องกันและตัดกระแสไฟฟ้า(โดยการหลอมละลาย) เมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ตนเองมีหน้าที่คุมอยู่ เกิดความผิดปกติขึ้น ดังนั้นขนาดของฟิวส์ที่ใช้จึงต้องมีความเหมาะสมกับวงจรที่ควบคุมอยู่ จึงทำให้การทำงานของฟิวส์มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ฟิวส์จะตัดกระแสเมื่อ
- มีการลัดวงจรเกิดขึ้น
- มีการต่อวงจรผิด
- กระแสไฟฟในวงจรผิดปกติ
สาเหตุที่ต้องมีฟิวส์
- ป้องกันไม่ให้อุปกรณ์อื่นๆ ได้รับความเสียหายมากขึ้น
- ป้องกันการลุกไหม้ของวงจรไฟฟ้า
- ป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะมีขึ้นได้
ขนาดของฟิวส์
- ฟิวส์ที่นำมาเปลี่ยนทดแทนจะต้องมีขนาดแอมป์เท่าเดิม หรือใกล้เคียงกับของเดิม
- หลีกเลี่ยงการเพิ่มขนาดของฟิวส์ เนื่องจากเพิ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินกระแสไฟมากขึ้น ในขณะที่ยังคงใช้สายไฟขนาดเท่าเดิม เพราะขนาดของสายไฟที่เล็กเกินไปจะก่อให้เกิดการลุกไหม้ขึ้นได้ เนื่องจากมีความร้อนสูง ในกรณีนี้ถ้าขนาดของสายไฟเล็กเกินไป จะต้องเดินสายไฟใหม่โดยใช้สายไฟที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ชนิดของฟิวส์ที่มีใช้กันในรถยนต์
- ฟิวส์แบบเสียบ ฟิวส์แบบนี้แบ่งเป็นสองขนาด คือตัวเล็กกับตัวใหญ่ ส่วนมากจะใช้ควบคุมอุปกรณ์ที่กินกระแสไฟไม่มาก ที่ใช้กันทั่วไปมีขนาด 5A, 10A, 15A, 20A, 25A, 30A โดยแต่ละขนาดจะมีสีเฉพาะของมันเอง
- ฟิวส์แบบหลอดแก้ว ฟิวส์ชนิดนี้มีใช้กันมานานแล้ว มีขนาดตั้งแต่ 5-50 แอมป์
- ฟิวส์เมน (มีลักษณะเป็นกล่อง) ใช้เป็นฟิวส์หลักในการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์
- ฟิวส์แบบสาย (มีลักษณะเหมือนสายไฟธรรมดา) เป็นตัวหลักที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ ส่วนมากจะต่อติดอยู่กับสายแบตเตอรี่
- ฟิวส์แบบกระดูก มีใช้กันในตระกูลรถยุโรป
- ฟิวส์เครื่องเสียง ส่วนมากจะมีขนาด 30A-60A
อุปกรณ์เสริม
เมื่อมีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม ในกรณีที่อุปกรณ์ไฟฟ้านั้นไม่มีฟิวส์ เช่น ติดตั้งสปอร์ตไลท์เพิ่ม ก็จำเป็นที่จะต้องติดตั้งฟิวส์ให้กับอุปกรณ์นั้น อุปกรณ์ตัวหนึ่งที่มีบทบาทเข้ามาก็คือกระบอกฟิวส์นั้นเอง แต่เดิมนั้นมีแต่กระบอกสำหรับใส่ฟิวส์แก้วเท่านั้น ปัจจุบันนี้ได้มีการผลิตกระบอกใส่ฟิวส์เสียบจำหน่ายกันแล้ว
- กระบอกฟิวส์แก้ว
- กล่องใส่ฟิวส์เสียบ